แนวทางการปฏิบัติงานของเภสัชกรเมื่อแพทย์สั่งเจาะวัดระดับยา Phenytoin

ผู้ป่วยที่แพทย์อาจสั่งเจาะวัดระดับยา Phenytoin มีดังต่อไปนี้

  • ผู้ป่วยเริ่มยาใหม่ (OPD, IPD)
  • ผู้ป่วยเก่า มาตามนัด F/U ยังคุมอาการชักไม่ได้ (OPD, IPD)
  • ผู้ป่วยเก่า มาด้วยอาการชักที่ห้องฉุกเฉิน (ER)
  • ผู้ป่วยเก่า ไม่มีอาการชัก ต้องการเช็คระดับยาหลังปรับขนาดยา/เพิ่มยาที่มี drug interaction ผู้ป่วยมีภาวะทางคลินิกที่ส่งผลต่อระดับยา สงสัยการเปลี่ยนแปลงทางเภสัชจลนศาสตร์ (OPD, IPD)
  • ผู้ป่วยเก่า ไม่มีอาการชัก ต้องการประเมินความร่วมมือการใช้ยาของผู้ป่วย (OPD, IPD)

เมื่อแพทย์สั่งเจาะวัดระดับยา Phenytoin

1. เภสัชกรซักประวัติผู้ป่วย

  • ระยะเวลาที่ได้รับยา
  • Adherence
  • dose & dosage form
  • เวลากินยาหรือได้รับยามื้อสุดท้าย

2. ตรวจสอบว่าระดับยาของผู้ป่วยอยู่ใน Steady state หรือไม่
✔️ ผู้ป่วยกินยาอย่างต่อเนื่อง
✔️ ระยะเวลาที่กินยาหลังจากเริ่มยา/ปรับขนาดยา มากกว่า T90% (โปรแกรมคำนวณ) หรือ มากกว่า 2 สัปดาห์

3. ตรวจสอบเวลาเจาะเลือดที่แพทย์สั่ง

3.1 ทุกข้อบ่งชี้ยกเว้นสงสัยระดับยาเป็นพิษควรเจาะ Ctrough (ภายใน 1 ชั่วโมงก่อนให้ยามื้อถัดไป) หรือ สงสัยความเป็นพิษจากยาควรเจาะ Cpeak (0.5 – 6 ชั่วโมงหลังได้ยา ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)

  • ✔️ ยืนยันเวลาเจาะ และปรึกษาแพทย์สั่งเจาะ albumin ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง hypoalbuminemia
    • ✔️ ระดับยาของผู้ป่วยอยู่ใน Steady state -> ผลระดับยานำไปใช้ปรับขนาดยาได้
    • ❌ ระดับยาของผู้ป่วยไม่อยู่ใน Steady state -> ผลระดับยาใช้ monitor ได้อย่างเดียว ถ้าต้องการใช้ปรับระดับยาต้องนัดเจาะเลือดอีกครั้ง
  • ❌ ปรึกษาแพทย์เปลี่ยนเวลาเจาะ (กรณีเวลาไม่เหมาะสม) หรือนัดวันเจาะเลือดใหม่ (ระดับยายังไม่อยู่ใน Steady state)
    ➕ แจ้งผู้ป่วยให้รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง หากกินยาช่วงเช้า ให้งดยาวันที่มาเจาะเลือด และนำยามากินหลังเจาะเลือดแล้ว

3.2 เจาะ ณ เวลาใดใด (Cimmediate) ในผู้ป่วยที่มาด้วยอาการชัก

หมายเหตุ คำจำกัดความ